ประโยคความรวม
หรือ อเนกรรถประโยค คือประโยคที่มีใจความสำคัญอยู่ตั้งแต่สองใจความขึ้นไป
นั่นคือประกอบด้วยภาคแสดงหรือภาคกริยาที่มีมากกว่าหนึ่งส่วน
โดยทุกประโยคย่อยมีน้ำหนักใจความสำคัญที่เท่าเทียมกัน
ประโยคความรวมยังอาจแบ่งย่อยได้ตามลักษณะเนื้อความได้เป็น ๔ ประเภทคือ
๑. ประโยคความรวมที่มีเนื้อความคล้อยตามกัน หรือ อันวยาเนกรรถประโยค ลักษณะสำคัญคือมีการเชื่อมประโยคความเดียวหลายประโยคเข้าด้วยกันด้วยคำสันธาน และ และอื่นๆ ในลักษณะเดียวกับคำว่าและ ประโยคความรวมที่มีเนื้อความคล้อยตามกันส่วนใหญ่มักเกิดจากการที่ประโยคความเดียวย่อยเหล่านี้มีการใช้ภาคประธาน หรือภาคกริยาร่วมกัน ยกตัวอย่างเช่น
- พ่อและแม่ไปตลาดโดยรถยนต์: เป็นการรวมกันระหว่างประโยคความเดียวสองประโยค คือ พ่อไปตลาดโดยรถยนต์ และ แม่ไปตลาดโดยรถยนต์
- เธอทำการบ้านและฟังเพลงไปพร้อมๆ กัน: เป็นการรวมกันระหว่างประโยคความเดียวสองประโยค คือ เธอทำการบ้าน และ เธอฟังเพลง
๒. ประโยคความรวมที่มีใจความขัดแย้ง หรือ พยติเรกาเนกรรถประโยค
เป็นประโยคความรวมที่ประโยคความเดียวที่เป็นส่วนประกอบมีเนื้อความไปในทางตรงกันข้าม
ได้แก่ประโยคความรวมที่ใช้สันธาน "แต่" และอื่นๆ ในลักษณะเดียวกับคำว่าแต่
ตัวอย่างเช่น
- แม่เป็นคนจุกจิกจู้จี้แต่พ่อก็อยู่กับแม่ได้: แม่เป็นคนจุกจิกจู้จี้ + พ่ออยู่กับแม่ได้
- ฉันสั่งข้าวผัดแต่เธอกลับสั่งก๋วยเตี๋ยวราดหน้า: ฉันสั่งข้าวผัด + เธอสั่งก๋วยเตี๋ยวราดหน้า
- คุณอรซื้อคอมพิวเตอร์รุ่นใหม่ล่ำสุดถึงแม้จะใช้ไม่เป็น: คุณอรซื้อคอมพิวเตอร์เครื่องใหม่ล่าสุด + คุณอรใช้(คอมพิวเตอร์)ไม่เป็น
๓. ประโยคความรวมให้เลือก หรือ วิกัลปาเนกรรถประโยค
คือ ประโยคความรวมที่ประกอบด้วยประโยคความเดียวสองประโยคซึ่งเชื่อมกันด้วย
"หรือ" หรืออื่นๆ ในลักษณะเดียวกับคำว่าหรือ อาจเป็นประโยคบอกเล่า
หรือประโยคคำถาม ยกตัวอย่างเช่น
- เสด็จให้มาเรียนถามเสด็จว่าเสด็จจะเสด็จหรือไม่เสด็จ
- พระยาอธิการบดีเสนอให้คุณหญิงกีรติไปเที่ยวมิตาเกะหรือไม่ก็ภูเขาไฟฟูจิ
๔. ประโยคความรวมที่เป็นเหตุผล หรือ เหตวาเนกรรถประโยค คือประโยคความรวมที่มีเนื้อความเป็นเหตุเป็นผล ส่วนใหญ่มักเชื่อมด้วยคำว่า "จึง" หรือ "เพราะฉะนั้น" ยกตัวอย่างเช่น
- ฉันทำการบ้านเสร็จแล้วจึงล้มตัวลงนอน
- เพราะก้องเกียรติเป็นคนมีฐานะ เรยาจึงต้องการสานสัมพันธ์

ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น